สุขภาพผิวที่ดีใครใครก็ต้องการ แต่วิธีทำให้หน้าใส ที่ได้ผลคืออะไร
สุดยอดปรารถนาของทุกคน
ไม่ว่าจะเป็นผู้หญิงหรือผู้ชาย แต่เมื่อกาลเวลาผ่านไปความเสื่อมของเซลล์ต่างๆ
ที่แสดงออกมาทางริ้วรอย ความหยาบกร้าน ความหมองคล้ำที่มาเยือน
ย่อมเป็นสิ่งที่ปฏิเสธไม่ได้ โดยเฉพาะคนเมืองที่ต้องอยู่ท่ามกลางแสงแดด มลภาวะ
และความเครียดต่างๆ
รวมถึงวิถีการกินที่เปลี่ยนเป็นชนิดสะดวกซื้อเพื่อสะดวกรับประทาน
ทุกคนจึงพยายามเสาะหาวิธีการต่างๆ
ที่จะช่วยชะลอความเสื่อมชราของร่างกาย
ซึ่งในปัจจุบันวิทยาการทางการแพทย์มีความก้าวหน้าไปมาก มีวิธีทำให้หน้าใส
มีทางเลือกมากมาย เช่น การบำรุงผิวโดยใช้เวชสำอางค์ ไปจนถึงการนำเทคโนโลยี ทางการแพทย์สมัยใหม่เข้ามาใช้
เช่น การทำเลเซอร์ การฉีดสารเพื่อเติมร่องริ้วรอยและการทำศัลยกรรมต่างๆ เป็นต้น
ซึ่งในการรักษาบางวิธีอาจจะมีค่าใช้จ่ายสูงที่ไม่คุ้มกับผลลัพธ์ หรืออาจจะพบผลข้างเคียงได้
ดังนั้นอาหารเสริมบำรุงผิวขาว
จึงเป็นทางเลือกอีกรูปแบบหนึ่งที่สะดวก
ความอ่อนเยาว์เปล่งปลั่งความเสื่อมของผิวพรรณ
และได้รับความนิยมในการดูแลสุขภาพผิว และต้านอนุมูลอิสระ ล่าสุดกับการค้นพบ
“แอสตาแซนธิน” ซึ่งเป็นสารต้านอนุมูลอิสระสีแดงที่สกัดมาจากสาหร่าย ฮีมาโตคอกคัส
พลูวิเอลิส
ซึ่งเป็นสาหร่ายขนาดเล็กที่เป็นต้นกำเนินของห่วงโซ่อาหารพบได้ในประเทศแถบสแกนดิเนเวีย
พบว่าสารแอสตาแซนธินมีค่าการต้านอนุมูลอิสระสูงกว่าวิตามินซี 6,000 เท่า
และสูงกว่าโคเอนไซม์คิวเทน 800 เท่า ซึ่งการเลือกรับประทานอาหารที่อุดมด้วยตัวต้านอนุมูลอิสระจะช่วยเสริมการกำจัดอนุมูลอิสระของร่างกาย
ซึ่งช่วยปกป้องร่างกายและผิวพรรณให้คงความอ่อนเยาว์ได้นานยิ่งขึ้น
จากผลการวิจัยของนักวิจัยชาวญี่ปุ่นที่ทำการศึกษาประโยชน์ของสารแอสตาแซนธินด้านผิวพรรณ
ในอาสาสมัครเพศหญิงสุขภาพดี จำนวน 49 คน ต่อเนื่อง “
ผลการวิจัยของนักวิจัยชาวญี่ปุ่นที่ทำการศึกษาประโยชน์ของ
สารแอสตาแซนธินด้านผิวพรรณ พบว่า อาสาสมัครรู้สึกว่า สุขภาพผิวดีขึ้น คือ ความแห้งและหยาบกระด้างของผิวลดลงผิวมีความชุ่มชื้นเพิ่มขึ้น
ความยืดหยุ่นมากขึ้น ริ้วรอยลดลง”
เป็นเวลา 6 สัปดาห์ พบว่า อาสาสมัครรู้สึกว่าสุขภาพผิวดีขึ้น
คือความแห้งและหยาบกระด้างของผิวลดลง ผิวมีความชุ่มชื้นเพิ่มขึ้น
ความยืดหยุ่นมากขึ้น ริ้วรอยลดลง นอกจากนี้ยังมีงานวิจัยพบว่า แอสตาแซนธิน
จะช่วยยับยั้งผลของรังสียูวีเอ จึงอาจกล่าวได้ว่า
แอสตาแซนธินสามารถต้านรังสียูวีเอ ที่มีผลให้เกิดการเสื่อมของเซลล์ผิว
จึงอาจช่วยป้องกันผิวเหี่ยวย่น และริ้วรอยได้
แม้ว่าอาหารเสริมบำรุงผิวขาวจะเป็นตัวเลือกที่ช่วยให้เราคงความอ่อนเยาว์และความเปล่งประกายของผิวพรรณไว้ได้
แต่หากปฏิบัติควบคู่กับการดูแลร่างกายด้านอื่นๆ ด้วย เช่นการดื่มน้ำมากๆ
การพักผ่อนอย่างเพียงพอ การรับประทานอาหารที่มีประโยชน์ครบ 5 หมู่โดยเฉพาะผักผลไม้
การออกกำลังกายอย่างสม่ำเสมอ
ก็จะทำให้เห็นผลชัดเจนยิ่งขึ้นนอกจากนี้ยังควรหลีกเลี่ยงมลภาวะต่างๆ เช่น แสงแดด
ควันบุหรี่ ความเครียด เพื่อช่วยให้เกิดอนุมูลอิสระน้อยที่สุด ซึ่งจะเห็นได้ว่าการชะลอความเสื่อมถอยของผิวพรรณไม่ใช่เรื่องยาก
แต่ต้องอาศัยการมีวินัย และความสม่ำเสมอ
ตลอดจนรับประทานสารต้านอนุมูลอิสระที่มีประสิทธิภาพสูงจากธรรมชาติอย่างเพียงพอควบคู่กันไป
ไม่มีความคิดเห็น:
แสดงความคิดเห็น