วันจันทร์ที่ 8 กรกฎาคม พ.ศ. 2556

ผิดไหม ถ้าอยากผิวขาว

ทำไมใตรก็อยากขาว ในยุคนี้  ผู้หญิง (ไทย) เกือบร้อยเปอร์เซ็นต์ ยอมทำเกือบทุกวิถีทาง เพื่อให้ตัวเองผิวขาวแบบสาวญี่ปุ่นหรือเกาหลี ทั้งวัยร่น นักเรียน สาวออฟฟิค  สังเกตง่าย ๆ แค่โฆษณาในทีวีที่มีแต่ผลิตภัณฑ์ปรับครีมผิวขาว ขาวกระจ่างใส ปรับสีผิวอะไรทำนองนี้เต็มไปหมด และชักจะหนักขึ้นทุกวัน เพราะล่าสุด มีโฆษณาถึงขนาดปรับสีผิวให้ขาวกระจ่างใสแม้กระทั่งจุดซ่อนเร้น เอ่อ...คุณขา...จะเยอะไปไหมค่ะนั่น
ค่านิยมอยากขาวของสาวไทย ดังไปไกลถึงต่างแดนแล้วค่ะ เมื่อสื่อชื่อดังของเกาะอังกฤษ อย่าง เดอะ การ์เดียน นำเสนอข่าวว่าสาวไทยกำลังมีค่านิยมผิด ๆ เกี่ยวกับเรื่องสีผิวที่อยากขาว จนยอมทำทุกวิถีทางเพื่อแลกมันมา
ดิฉันยอมรับคนหนึ่งค่ะว่า อยากมีผิวขาวเหมือนสาวญี่ปุ่นเกาหลีอะไรนั่นบ้าง แต่ก็มีสติค่ะ มีสติที่ระลึกอยู่เสมอว่าเชื้อชาติและถิ่นฐานที่อยู่ใกล้เส้นศูนย์สูตรอย่างเมืองไทย เมืองร้อน แดดร้อน จนทำให้ร่างกายต้องปรับตัวให้สร้างเม็ดสีผิวขึ้นมากมาก เพื่อเป็นเสมือนเกราะป้องกันผิวไหม้แดด ป้องกันการเกิดริ้วรอย และป้องกันมะเร็งผิวหนัง ผิวของคนไทยจึงมีสีออกเข้ม ซึ่งต่างจากประเทศในซีกโลกอื่น ๆ
มีการจัดแบ่งสีผิวตามหลักทางการแพทย์ด้วยนะค่ะ ซึ่งสามารถแยกได้ 6 ชนิดด้วยกัน พวกที่มีสีผิวชนิดที่ 1 เป็นของคนที่อยู่แถบขั้วโลก สีผิวขาวมากแต่จะสร้างเม็ดสีได้ไม่ค่อยดี ไม่สามารถป้องกันผิวไหม้ได้ ขณะที่ดำที่สุดอย่างชนิดที่ 6 พบในผู้คนแถบเส้นศูนย์สูตร อย่างชาวนิโกร สำหรับผิวของคนไทยหรือแถบเอเชีย ถือว่าเป็นผิวชนิดที่ 3 – 5 มีการสร้างเม็ดสีได้ดี ผิวสวย ผิวแข็งแรง ริ้วรอยมาช้า มีเพียงแค่ปัญหาฝ้าเท่านั้นที่เกิดขึ้นได้ง่าย
ผิวสีอย่างคนไทยเรา จึงเป็นสีผิวที่ฝรั่งอิจฉากันนะค่ะ แต่ก็นั่นอีกแหละลางเนื้อชอบลางยา ไทยเราได้รับอิทธิพลความขาวมาจากสาวญี่ปุ่นเกาหลี ผ่านทางนักร้อง ดารานักแสดงกันมากมาก ประกอบกับการโฆษณาผลิตภัณฑ์ไวท์เทนนิ่งต่าง ๆ มักพยายามชี้ว่า โอกาสที่ดีเป็นของคนผิวขาวเท่านั้น
สาวไทยเลยลืมค่ะ ลืมไปว่าของดี ๆ ที่มีอยู่เหมาะกับเราเป็นที่สุด ลืมจนกระทั่งคลั่งไคล้ความขาว จนต้องสรรหาสารพันผลิตภัณฑ์หน้าขาว ผิวขาว มาใช้แบบไม่ลืมหูลืมตา ผลิตภัณฑ์ใดที่ว่าใช้แล้วขาว ทาแล้ววิ๊งค์ ๆ ออร่า ๆ แล้วละก็ กวาดมาใช้เสียเรียบ จนสมาคมแพทย์ผิวหนังฯ ต้องออกมาเตือนให้ระวังและมีสติในการใช้ผลิตภัณฑ์ในกลุ่มนี้ ด้วยการตรวจดูส่วนผสมของผลิตภัณฑ์อย่างละเอียด ต้องไม่มีสารต้องห้ามที่จัดว่าเป็นเครื่องสำอางผิดกฎหมาย อันประกอบด้วย ปรอท, ไฮโดรควินโนน, และกรดวิตามินเอ เนื่องจากสารเหล่านี้ใช้แล้วจะเกิดการสะสมในร่างกาย เป็นอันตรายต่อผิว โดยเฉพาะสารปรอทที่อาจดูดซึมเข้าสู่กระแสเลือดและไปทำอันตรายต่อไตได้

ส่วนคำแนะนำจากสมาคมแทพย์ผิวหนังในการใช้ผลิตภัณฑ์ในกลุ่มไวท์เทนนิ่งนี้ คือให้เลือกผลิตภัณฑ์ที่เหมาะกับสภาพผิว ราคาพอประมาณและไม่เห็นผลรวดเร็วจนเกินไป ควรเลือกซื้อผลิตภัณฑ์ครีมผิวขาว ที่ได้รับการรับรอง จาก อย อย่างน้อยก็ปลอดภัยระดับหนึ่ง แล้ว เพราะพึงระลึกไว้เถอะค่ะว่า หากทาแล้วหน้าเด้งอีกเพียงชั่วข้ามคืน หรือภายใน 3 วัน 7 วัน แล้วละก็ ไม่ผสมปรอท ก็ไฮโดรควิโนน แล้วละค่ะ หากใช้นาน ๆ อาจทำให้หน้าดำ หน้าลอก หน้าด่างได้ เชื่อเถอะว่า ไม่ขาว ก็สวยได้ มั่นใจซะอย่างก็พอแล้วค่ะ

ไม่มีความคิดเห็น:

แสดงความคิดเห็น